บริษัทคริปโทฯ โอนเหรียญกว่า 1.48 แสนล้านบาทให้เครือข่ายค้าอาวุธรัสเซีย

คอปเปอร์ เทคโนโลยีส์ (Copper Technologies) บริษัทสกุลเงินดิจิทัลแห่งหนึ่งได้โอนสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ามากกว่า 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.48 แสนล้านบาท) ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของ โจนาทาน ซีเมนคอฟ ชาวรัสเซียวัย 29 ปี ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร เพราะต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกเครือข่ายค้าอาวุธรัสเซีย

ธุรกรรมดังกล่าวถูกค้นพบโดยสำนักข่าว เดอะ การ์เดียน และสมาคมนักข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ)

ซีเมนคอฟถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเมื่อเดือน ก.พ. 2023 หลังถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือกองทัพรัสเซียในการรุกรานยูเครน โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “เครือข่ายซีเมนคอฟ” ซึ่งเป็นเครือข่ายการค้าอาวุธที่นำโดย อิกอร์ ซีเมนคอฟ พ่อของเขา

รายงานระบุว่า ในเดือน พ.ค. 2021 คอปเปอร์โอนเงินดิจิทัลมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ถูกระบุว่าเป็นของซีเมนคอฟ โดยเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะถูกคว่ำบาตร 19 เดือน

แม้ว่าซีเมนคอฟจะยังไม่ได้ถูกคว่ำบาตรเมื่อการทำธุรกรรมเกิดขึ้น แต่สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เชื่อว่า เครือข่ายซีเมนคอฟมีความเคลื่อนไหวที่ไม่ชอบมาพากลมาหลายปีแล้ว

OFAC ระบุว่า เครือข่ายซีเมนคอฟมีส่วนร่วมในข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัสเซียและการขายเฮลิคอปเตอร์ในต่างประเทศ เช่นเดียวกับความพยายามที่จะจัดหาอาวุธให้กับประเทศในแอฟริกา

ไม่มีการระบุว่า คอปเปอร์ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรหรือกฎระเบียบอื่นใด ณ เวลาที่ทำธุรกรรม

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยดังกล่าวได้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสกุลเงินดิจิทัล ทั้งการไม่เปิดเผยตัวตน หรือการควบคุมระบบการเงินที่ดูจะหละหลวมและขาดการตรวจสอบ

ด้านคอปเปอร์ออกแถลงการณ์ว่า “บริษัทให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมาย และข้อบังคับอย่างจริงจัง และได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงข้อห้ามการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในสหราชอาณาจักร” แต่ไม่มีการชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับตัวของซีเมนคอฟ

การ์เดียนและ ICIJ เข้าใจว่า ซีเมนคอฟไม่ใช่ลูกค้าของคอปเปอร์โดยตรง ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายในการตรวจสอบตัวตนของเขา

บริษัททางการเงินมีตัวเลือกในการยื่นรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย (SAR) เมื่อการทำธุรกรรมทำให้เกิดสัญญาณเตือนธงแดง (Red Flag) แม้ว่ากฎจะไม่ถูกละเมิดอย่างชัดเจนก็ตาม

ไม่มีใครรู้ว่าคอปเปอร์ได้ยื่น SAR หรือไม่ ซึ่งจะต้องถูกส่งไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร

ตามคำแนะนำที่ออกในปี 2020 โดยกลุ่มควบคุมการฟอกเงินร่วมของอุตสาหกรรมการเงิน ถือเป็น “แนวปฏิบัติที่ดี” สำหรับบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับการโอนเงินเพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

จากนั้นช่วงปลายปี 2023 สหราชอาณาจักรยังได้ใช้กฎการเดินทางที่บังคับให้บริษัทคริปโทเคอร์เรนซีดำเนินการตรวจสอบเงินที่โอนไปยังบุคคลภายนอก หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลกังวลว่า ความเสี่ยงนี้อาจถูกมองข้าม

การโอนสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) และอีเธอเรียม (Ethereum) จะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่สนับสนุนระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่บันทึกธุรกรรม พวกเขายังสามารถเปิดเผยตัวตนให้กับผู้ที่พยายามปกปิดความสัมพันธ์ทางการเงินได้ เนื่องจากเงินถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินออนไลน์ที่ข้อมูลไม่จำเป็นต้องตรงกับตัวตนของผู้ถือ

บันทึกบล็อกเชนแสดงให้เห็นว่า ในเดือน พ.ค. 2021 คอปเปอร์โอนอีเธอเรียมมากกว่า 1,700 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 4.2 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น ไปให้กับซีเมนคอฟ โดยแยกโอนเป็น 2 ธุรกรรมในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ เจ้าของกระเป๋าเงินที่ได้รับอีเธอเรียมจำนวนดังกล่าวไม่ได้รับการตั้งชื่อในบันทึกบล็อกเชน แต่แสดงเฉพาะที่อยู่สกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาเท่านั้นในลักษณะของชุดตัวอักษรและตัวเลข

แต่ที่อยู่เดียวกันนั้นปรากฏอยู่ในประกาศกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. 2023 เกี่ยวกับการคว่ำบาตรเครือข่ายซีเมนคอฟ

นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว การ์เดียนรายงานว่า คอปเปอร์มีส่วนร่วมในการขายหุ้นมูลค่ากว่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (672 ล้านบาท) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนายธนาคารชาวรัสเซียคนหนึ่งที่ถูกคว่ำบาตรเช่นกัน

เรียบเรียงจาก The Guardian

เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก คำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1

สรุปผล Oscar 2024 “คิลเลียน เมอร์ฟี – เอมมา สโตน” ซิวนักแสดงนำ หนัง “Oppenheimer” กวาด 7 รางวัล

บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.

คอปเปอร์ เทคโนโลยีส์ (Copper Technologies) บริษัทสกุลเงินดิจิทัลแห่งหนึ่งได้โอนสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ามากกว่า 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.48 แสนล้านบาท) ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของ โจนาทาน ซีเมนคอฟ ชาวรัสเซียวัย 29 ปี ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร เพราะต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกเครือข่ายค้าอาวุธรัสเซีย ธุรกรรมดังกล่าวถูกค้นพบโดยสำนักข่าว เดอะ การ์เดียน และสมาคมนักข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ซีเมนคอฟถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเมื่อเดือน ก.พ. 2023 หลังถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือกองทัพรัสเซียในการรุกรานยูเครน โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “เครือข่ายซีเมนคอฟ” ซึ่งเป็นเครือข่ายการค้าอาวุธที่นำโดย อิกอร์ ซีเมนคอฟ พ่อของเขา รายงานระบุว่า ในเดือน พ.ค. 2021 คอปเปอร์โอนเงินดิจิทัลมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ถูกระบุว่าเป็นของซีเมนคอฟ โดยเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะถูกคว่ำบาตร 19 เดือน แม้ว่าซีเมนคอฟจะยังไม่ได้ถูกคว่ำบาตรเมื่อการทำธุรกรรมเกิดขึ้น แต่สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เชื่อว่า เครือข่ายซีเมนคอฟมีความเคลื่อนไหวที่ไม่ชอบมาพากลมาหลายปีแล้ว OFAC ระบุว่า เครือข่ายซีเมนคอฟมีส่วนร่วมในข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัสเซียและการขายเฮลิคอปเตอร์ในต่างประเทศ เช่นเดียวกับความพยายามที่จะจัดหาอาวุธให้กับประเทศในแอฟริกา ไม่มีการระบุว่า คอปเปอร์ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรหรือกฎระเบียบอื่นใด…